- สร้างโดย โรงเรียนบ้านโนนพฤกษ์
- สังกัด อปท. จังหวัด นครราชสีมา
- ผู้จัดทำ นางน้ำฝน เยี่ยงอย่าง วันที่สร้าง 24 มกราคม 2556, 20:28 น.
- ประเภทตัวชี้วัด ด้านการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาเด็กปฐมวัย
โรงเรียนบ้านโนนพฤกษ์ ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ตำบลจักราช อำเภอจักราช จังหวัดนครราชสีมา รหัสไปรษณีย์ 30230 โทรศัพท์ 0-4439-9565 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครราชสีมา เขต 2 เปิดสอนตั้งแต่ระดับ ปฐมวัย ถึงระดับ ประถมศึกษาปีที่ 6โรงเรียนตั้งอยู่ในชุมชนชนบท มีสภาพกึ่งชุมชนเมืองและชนบท ประชาชนและผู้ปกครองส่วนใหญ่มีอาชีพทางการเกษตรเชิงเดี่ยว รายได้ไม่แน่นนอน มีฐานะค่อนข้างยากจน ผู้ปกครองบางส่วน ละทิ้งอาชีพเดิม และทิ้งถิ่นฐานไปรับจ้างทำงานในสังคมเมือง ปล่อยบุตรหลานให้อยู่กับผู้สูงอายุหรือญาติ จึงเป็นปัญหาอุปสรรคอย่างยิ่งในการพัฒนาการศึกษาของโรงเรียน และชุมชนไม่มีอาชีพที่เป็นเอกลักษณ์ หรือ แหล่งเรียนรู้ที่จะเป็นแหล่งส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียน ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ประเพณีศิลปวัฒนธรรมที่เป็นที่รู้จักโดยทั่วไปคือ ประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา ประเพณีกวนข้าวทิพย์ ผู้ปกครองนักเรียนส่วนใหญ่จบการศึกษาระดับประถมศึกษา ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ร้อยละ 98.00 นับถือศาสนาพุทธชีวิตประจำวัน ไม่ใช่สอนให้บรรลุนิพพาน ในส่วนของเด็ก และเยาวชน จุดเริ่มต้นที่ดีของชีวิต คือ ครอบครัว และโรงเรียน นั่นคือ พ่อ แม่ ครูบาอาจารย์ จะต้องประพฤติดีให้เป็นแบบอย่างแก่เด็ก และเยาชน ผู้ใหญ่ต้องไม่ดื่มสุรา ไม่สูบบุหรี่ ไม่เล่นการพนัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่คอร์รัปชันให้เด็กได้รู้ ได้เห็น การประพฤติตนให้เป็นแบบอย่างง่ายนิดเดียว คือ เวลาดูทีวี หรือฟังวิทยุ ถ้าเห็นว่าเป็นพฤติกรรมอันสมควร ควรบอกกล่าวว่า อันนี้สมควร และถ้าเห็นว่าไม่สมควรก็ควรบอกกล่าว ผู้ปกครองเองน่าจะไหว้พระ สวดมนต์ก่อนนอน พาลูกหลานเข้าวัดฟังธรรม ซึ่งอยากจะขอร้องวัดวาอารามให้เติมเต็มสิ่งที่น่าสนใจ เพื่อให้วัดเป็นสถานที่ซึ่งเด็ก และเยาวชนสามารถเข้ามาฟังการบรรยายธรรมร่วมกับผู้ใหญ่ด้วยความรู้สึกที่ดี “วัดต้องมีบรรยากาศที่รื่นรมย์ ร่มเย็นเป็นสุข สงบร่มรื่น มีต้นไม้ มีสายน้ำเล็กๆ ให้คนได้นั่งอ่านหนังสือ หรือปฏิบัติธรรม อย่างน้อยควรกันพื้นที่ส่วนหนึ่งให้เป็นมุมธรรมะสงบ ร่มเย็น ไม่วุ่นวาย ไม่ใช่มีแต่ตึก สิ่งปลูกสร้าง หรือขายวัตถุที่เป็นพุทธพาณิชย์ จุดอ่อนของเราก็คือ การเผยแผ่พุทธศาสนาในเด็ก และวัยรุ่น ต้องเผยแผ่ให้เหมาะกับกาลเทศะ และวัย ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของคณะสงฆ์ร่วมกับพุทธศาสนิกชน ที่จะต้องส่งเสริมพระพุทธศาสนาเพื่อสร้างคน วัดต้องมี 5 ส. คือ เข้าวัดแล้วเป็นเรื่องสนุก มีกิจกรรมดีให้เด็กได้เรียนรู้ สาระ คือ นำเสนอเรื่องดีๆ มีสาระ สงบ คือ บรรยากาศสงบร่มเย็นใจ ก่อให้เกิดสติ และสร้างสำนึกที่ดีนำไปใช้ได้จริง”ครอบครัวถือเป็นสถาบันที่เล็กที่สุด แต่มีอิทธิพลมากที่สุด สิ่งที่ควรจะคำนึงถึง คือ เราไม่ควรฝากความหวังไว้กับผู้อื่น การนำพุทธศาสนาไปช่วยกล่อมเกลาจิตใจเด็กคือหนทางที่ดีที่สุด พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ควรพาลูกเข้าวัด ให้เด็กคุ้นเคยกับวัด กับการฟังธรรม ปฏิบัติธรรม ในส่วนนี้สำนักพระพุทธศาสนาควรจะมีส่วนช่วยที่จะทำให้เด็กเกิดความรู้สึกอยากไปวัด โดยการสวดมนต์ให้เป็นที่เข้าใจง่าย บรรยายธรรมเกี่ยวกับเรื่องใกล้ตัวเด็ก เพื่อให้สามารถนำมาปรับใช้ประโยชน์กับชีวิตประจำวัน ขณะเดียวกันการสร้างบรรยากาศให้ประทับใจก็เป็นสิ่งที่ควรดำเนินการควบคู่กันไปด้วย เด็ก ถือเป็นวัยที่มีพลังเหลือเฟือ แต่จะให้เด็กใช้พลังอย่างสร้างสรรค์ได้อย่างไร กีฬาจะเล่นในกรุงเทพฯ พื้นที่ก็ไม่มี ดนตรีก็แพง เป็นสมาชิกฟิตเนสก็ราคาสูง เด็กก็จะต้องไปที่ที่ชอบ คือ ผับ บาร์ เกม และยาเสพติด ถ้าใช้เงินมากๆ เข้า ที่สุดอาจกลายเป็นอาชญากร ปัญหาสังคมก็จะลุกลามเพิ่มขึ้น รัฐบาลควรผลักดันด้านการศึกษา ชั้นประถมวัย 0-6 ปี ถือเป็นวัยที่ต้องใช้จิตวิทยาเพื่อปูพื้นฐานด้านศีลธรรมที่ดีให้กับเด็ก รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า การที่จะพิทักษ์พระพุทธศาสนา ต้องรู้ว่าอะไรที่จะต้องพิทักษ์ดูแล พิทักษ์เพื่อให้พุทธศาสนาอยู่รอด ตั้งมั่น มีการขยายตัว และมีความเข้มแข็ง สามารถนำหลักของศาสนาพุทธไปสร้างประโยชน์ให้สังคมได้ เราจะดูแลได้อย่างไร นั่นคือดูแลเรื่องพุทธธรรมให้คนไทยที่มีบัญชีรายชื่อว่าเป็นพุทธ เป็นพุทธแท้
แชร์ข่าวนี้