- สร้างโดย ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กอบต.สบโขง2(บ้านขุนอมแฮดนอก)
- สังกัด อปท. จังหวัด เชียงใหม่
- ผู้จัดทำ นงลักษณ์ เด่นภูเขา วันที่สร้าง 2 มีนาคม 2562, 12:27 น.
- ประเภทตัวชี้วัด ผู้เรียนมีทักษะการคิด,ภาษา,การสังเกต,การจำแนก,การเปรียบเทียบและแก้ปัญหาได้เหมาะสมกับวัย
การจัดการศึกษาแบบ STEM นับว่าเป็นสิ่งใหม่สำหรับประเทศไทย ซึ่งครูหลายคนอาจมองว่าเป็น เรื่องยากในการจัดการเรียนการสอน แต่ในความเป็นจริงแล้ว การเรียนการสอนในระดับปฐมวัย ได้มีการ แทรกสาระของ STEM เข้าไปในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว เพียงแต่ครูส่วนใหญ่ไม่ได้มีการเน้นหรือแบ่งสัดส่วน การสอนเป็นรายวิชาที่ชัดเจน ซึ่งครูสามารถที่จะบูรณาการ STEM แทรกเข้าไปในการจัดการเรียนการสอน ตามหน่วยที่ครูจัดขึ้น หรือเลือกตามหน่วยที่เด็กสนใจได้อย่างหลากหลาย จะทำให้เด็กสนุกกับการเรียนใน ห้องมากขึ้น เพราะการศึกษาแบบ STEM เป็นการศึกษาที่ช่วยทำให้เด็กอยากเรียนรู้ด้วยตนเอง เปลี่ยนการ เรียนแบบท่องจำมาเป็นการเรียนรู้แบบลงมือทำปฏิบัติจริง ทดลอง สืบค้น และใช้วัสดุอุปกรณ์ ทำให้เด็ก ได้ใช้ความสามารถของตนเองอย่างเต็มที่ ได้รับความสนุกสนาน และมีความสนใจในวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ มากยิ่งขึ้น เราเชื่อว่า “วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์” เป็นเครื่องมือที่จะ ตอบโจทย์นี้ ช่วงหลังมานี้ นักการศึกษาไทยมักกล่าวถึง STEM Education (Science Technology Engineering Math’s) ว่าจะเป็นเครื่องมือในการสมรรถภาพในการแข่งขันให้คนไทยในตลาดโลกได้ ความ จริงเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ไม่ได้หมายความว่าต้องสร้างวิชาใหม่ชื่อ STEM ขึ้นมา แต่จะปรับวิธีการเรียนการ สอนอย่างไรให้ต่อยอดจากการเรียนเพื่อเรียน ให้เด็กและเยาวชนคิดต่อได้ เช่น จากเรียนวิทย์ สามารถต่อ ยอดสู่การทำโครงงาน สู่การสร้างนวัตกรรมได้เป็นต้น สะเต็มศึกษา คือ แนวทางการจัดการศึกษาที่บูรณาการความรู้ใน 4 สหวิทยาการ ได้แก่ วิทยาศาสตร์ วิศวกรรม เทคโนโลยี และคณิตศาสตร์ โดยเน้นการน าความรู้ไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตจริง รวมทั้งการพัฒนากระบวนการหรือผลผลิตใหม่ ที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตและการทำงาน ช่วย นักเรียนสร้างความเชื่อมโยงระหว่าง 4 สห
แชร์ข่าวนี้