Learning by Running แสนสนุก
สร้างโดย ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลระวิง (จังหวัดเพชรบูรณ์)
ผู้จัดทำ นางสาวจันทนา ใจสูงเนิน
ประเภทตัวชี้วัด : หัวหน้าสถานศึกษา มีคุณธรรมจริยธรรมมีภาวะผู้นําและมีความสามารถในการบริหารจัดการ
เรียนรู้การออกกำลังในปัจจุบันพบว่าเด็กๆ มีปัญหาทางสุขภาพสูงมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ทั้งการมีน้ำหนักตัวเกิน เป็นโรคที่เกี่ยวกับภูมิแพ้หรืออาจจะไม่สบายบ่อย ๆ ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้สามารถบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเด็ก ๆ ควรจะต้องมีการออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมที่เหมาะสมเพื่อช่วยเสริมสร้างให้มีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง นอกจากนี้การออกกำลังกายโดยการวิ่งยังช่วยกระตุ้นและส่งเสริมพัฒนาการของเด็กได้ทั้งทางร่างกายและจิตใจอีกด้วย การออกกำลังกายในเด็กนั้น หมายถึง การวิ่งเล่น รวมไปถึงการทำกิจกรรมสันทนาการต่างๆ เพื่อความเพลิดเพลิน ประโยชน์ของการออกกำลังกายสำหรับเด็ก 1. ช่วยในการเจริญเติบโตและพัฒนาการ เพิ่มการสร้างมวลกระดูก ซึ่งมีผลต่อความสูงของเด็ก ส่งเสริมความแข็งแรงของระบบกล้ามเนื้อและข้อต่อต่างๆ ของร่างกาย พัฒนาระบบประสาทสั่งการ ทำให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดแข็งแรงขึ้น มีผลต่อการหลั่งฮอร์โมนเพื่อการเจริญเติบโต (Growth Hormone) 2. ควบคุมน้ำหนักตัว จากการช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกิน 3. การออกกำลังกายช่วยให้สมองส่วนการเรียนรู้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 4. ส่งเสริมสุขภาพจิต ลดความตึงเครียด ทำให้เกิดความสนุกสนาน 5. การออกกำลังกายเป็นการเปิดโอกาสให้เด็กได้พบเห็นและเรียนรู้กับสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ รวมถึงได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ จึงมีความเชื่อมั่นในตนเอง และกล้าแสดงออก การออกกำลังกายโดยการวิ่งช่วยให้การเรียนรู้ทางวิชาการดีขึ้น การให้เด็กในวัยเรียนได้เคลื่อนไหวออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ผลการเรียนของเด็กดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ และมีการตื่นตัวในการเรียนมากขึ้น ทั้งนี้เนื่องจาก 1. ช่วยให้เลือดและออกซิเจนมีการไหลเวียนไปสู่สมอง จึงมีความจำดีขึ้น และมีความตื่นตัวและจดจ่อในการเรียนมากขึ้น 2. ทำให้ร่างกายกระฉับกระเฉง มีอารมณ์แจ่มใส 3. เสริมสร้างคุณค่าในตัวเอง ทำให้มีทักษะทางสังคมดีขึ้นซึ่งส่งผลต่อการเรียน 4. เด็กที่เป็นไฮเปอร์แอคทีฟ หากได้รับการออกกำลังกายที่เหมาะสม จะช่วยให้เด็กมีสมาธิและมีการเรียนรู้ที่ดีขึ้น การออกกำลังกายที่เหมาะสมตามวัย อายุ 2-6 ขวบ วัยนี้เริ่มมีการเรียนรู้ และมีพัฒนาการทางด้านการวิ่งการกระโดด กิจกรรมที่เหมาะสม ได้แก่ กระโดดกระต่ายขาเดียว กระโดดสองขา วิ่งไล่จับ กระโดดเชือก เตะลูกบอล กลิ้งม้วนหน้า การปีนป่ายเครื่องเล่น ว่ายน้ำ ขี่จักรยานโดยมีล้อช่วยการทรงตัว ขว้างรับจานร่อนหรือลูกบอล การส่งเสริมการออกกำลังกายสำหรับเด็กโดยการวิ่ง 1. ส่งเสริมให้เด็กได้ทำกิจกรรมนันทนาการ อย่างน้อยวิ่งสัปดาห์ละ 2-3 วัน โดยอาจหากิจกรรมที่ทำร่วมกันได้ทั้งครอบครัว เช่น ไปวิ่งเล่นที่สวนสาธารณะ 2. ส่งเสริมให้เด็กทำกิจกรรมง่ายๆในชีวิตประจำวัน โดยทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง เช่น ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน รดน้ำต้นไม้ วิ่งเล่นกับสุนัขที่บ้าน เดินขึ้นบันได วิ่งเก็บของ ถีบจักรยานไปซื้อของ 3. สลับสับเปลี่ยนลักษณะการออกกำลังกายหลาย ๆ รูปแบบเพื่อให้กล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้มีการใช้อย่างทั่วถึงทุกส่วน และไม่ให้เกิดความรู้สึกเบื่อ 4. จัดหาเครื่องเล่นหรืออุปกรณ์การออกกำลังกายที่เหมาะสมกับวัยของเด็ก 5. เลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี 6. ให้ความสำคัญกับความสนุกสนาน และความชอบในการร่วมกิจกรรมเป็นหลัก เพราะสาเหตุส่วนใหญ่ที่เด็กไม่อยากออกกำลังกายก็เพราะไม่มีความชอบและไม่รู้สึกสนุกนั่นเอง 7. ไม่ควรเปรียบเทียบระดับความสามารถกับเด็กคนอื่นๆ หรือให้ความสำคัญกับผลของการแพ้-ชนะ แต่ควรดูในเรื่องของความเหมาะสมตามความสามารถและพัฒนาการเด็กมากกว่า
ที่มา : http://special2.dusitcenter.org/cdcnews/content.php?nid=8833 | เลขที่ข่าวอ้างอิง : 8833