Play&Learn เพลินไปกับการประกันคุณภาพ

สร้างโดย ศพด. วัดบางเคียน (จังหวัดพระนครศรีอยุธยา)

ผู้จัดทำ นางสาวศิราลักษณ์ ทองโฉม

ประเภทตัวชี้วัด : สถานศึกษาสามารถจัดการประสบการณ์การเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพและเน้นผู้เรียนเป็นสําคัญ

             Play & Learn หรือ การจัดการเรียนการสอนแบบเรียนปนเล่น เป็นกลยุทธ์ในการจัดการเรียนรู้ที่ใช้เครื่องมือ รูปแบบ เทคนิค และวิธีการที่หลากหลายที่มีประสิทธิภาพ เพื่อบรรลุตามจุดประสงค์การเรียนรู้และสมรรถนะ จึงถือเป็นการวางแผนการบริหารจัดการในชั้นเรียน เป็นการพัฒนาด้านผู้เรียน ด้านการบริหารการจัดการ ด้านการเรียนการสอน ส่งผลต่อระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา ซึ่งเป็นกลไกสำคัญเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องว่า ผู้เรียนทุกคนจะได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพจากสถานศึกษา เพื่อพัฒนาความรู้ ความสามารถและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตามมาตรฐานการศึกษา พร้อมที่จะก้าวและต่อสู้ต่อสิ่งเร้าที่มีอยู่มากมายในสังคมปัจจุบัน การประกันคุณภาพภายในจึงถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของระบบประกันคุณภาพภายใน การจัดกิจกรรมของ Play & Learn เพลินไปกับประกันคุณภาพการศึกษา เสนอกลยุทธ์และเทคนิค กิจกรรม เป็นตัวอย่าง 4 เทคนิค วิธีบูรณาการสาระความรู้ ทักษะ ประสบการณ์ที่ต้องการให้เกิดกับเด็ก และการเล่นให้เข้าด้วยกัน ทำให้เด็กได้เล่น แสดงออก ได้ร้องเพลง ทำให้เด็กรู้สึกสนุกสนาน อยากเรียนรู้มากขึ้น ในรูปแบบของการเรียนปนเล่น (Play & Learn ) มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมพัฒนาการเด็กทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญา ภายใต้การอำนวยความสะดวก สนับสนุน ชี้แนะ ช่วยเหลือของครูในด้านต่างๆ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์การเรียนรู้และสมรรถนะ ประกอบกับการบูรณาการกิจกรรมให้สอดรับกับค่าเป้าหมายตัวชี้วัดมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2561และมาตรฐานการเรียนรู้ตามหลักสูตร เพื่อเป็นตัวอย่างให้เห็นในการทำกิจกรรมประจำวัน มาตรฐานการศึกษาถือเป็นข้อกำหนดเกี่ยวกับคุณลักษณะและคุณภาพที่พึงประสงค์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นในสถานศึกษาทุกแห่ง มาตรฐานถูกกำหนดขึ้นเพื่อใช้เป็นหลักเทียบเคียงสำหรับการส่งเสริมและกำกับดูแล การตรวจสอบ การประเมินผลและการประกันคุณภาพการศึกษา ( สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน2548,) มาตรฐานในการศึกษาระดับปฐมวัย ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานจึงเป็นมาตรฐานที่มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพการศึกษาโดยองค์รวม

ที่มา : http://special2.dusitcenter.org/cdcnews/content.php?nid=8749 | เลขที่ข่าวอ้างอิง : 8749