เรียนอย่างมีความสุขสนุกกับกิจกรรมศิลปะ

สร้างโดย ศพด.บ้านหนองอั้ว (จังหวัดหนองคาย)

ผู้จัดทำ เดือนเพ็ญเต็มดวง จอมศรี

ประเภทตัวชี้วัด : สถานศึกษาสามารถจัดการประสบการณ์การเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพและเน้นผู้เรียนเป็นสําคัญ



             เด็กปฐมวัยเป็นช่วงที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วจากประสบการณ์การเรียนรู้ต่างๆที่เด็กได้รับประสบการณ์เหล่านี้จะฝังอยู่ในโครงสร้างพื้นฐานของสมองของเด็กซึ่งมีกระบวนการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ขวบปีแรกเครือข่ายใยประสาทจะถูกสร้างขึ้น 700 เครือข่ายต่อวินาที ความสุขของเด็กปฐมวัยเชื่อมโยงกับพัฒนาการด้านต่างๆโดยเฉพาะพัฒนาการด้านอารมณ์ของเด็กซึ่งมีผลต่อความสามารถในการปรับตัวเมื่อเด็กเข้าเรีย การจัดการเรียนการสอนต้องเป็นไปอย่างยืดหยุ่น เป็นการลงมือทำตามความต้องการของเด็ก เป็นกิจกรรมที่เด็กๆได้รับประสบการณ์ตรงจากของจริงที่จัดสภาพแวดล้อมขึ้นโดยยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ เด็กๆไม่รู้สึกตนว่ากำลังเรียนเนื้อหาสาระใดอยู่ รู้แต่เพียงว่าได้ฟังนิทาน ได้ลงมือทำกิจกรรมต่างๆที่เป็นเรื่องจริงเหมือนกับการเล่นบทบาทสมมติ ได้ทดลองตั้งสมมติฐาน จากนั้นก็ลงมือทดลองเพื่อพิสูจน์สมมติฐานของตนเองวิชาศิลปะเป็นวิชาที่เปิดโอกาสให้เด็กได้แสดงความคิดจินตนาการได้เต็มที่ตาม ที่ได้เห็น เด็ก สามารถสร้างจินตนาการได้กว้างกว่าที่เราจะคาดเดาได้ บางที ก็อาจจะสะท้อนจิตใจความรู้สึกของ เด็กที่บางที่ไม่สามารถถ่ายทอดเป็นคำพูดได้แต่สามารถถ่ายทอดมาทางงานศิลปะได้ วิชา ศิลปะเป็น ฐานทางการศึกษาพัฒนาการเด็กซึ่งควรเริ่มตั้งแต่เด็กยังเล็กอยู่การ เรียนการสอนศิลปะสำหรับเด็ก ปฐมวัยนั้นจะมุ่งเน้นถึงพัฒนาการด้านต่างๆของ เด็กมากกว่าผลงาน ดังนั้นจะเห็นว่ากิจกรรมต่างๆ ทางศิลปะจะเป็นการฝึกกล้ามเนื้อมือให้แข็งแรง และสัมพันธ์กับการใช้ตา เช่นการปั้นแป้ง ดินน้ำมัน วาดรูป และระบายสี เด็กได้ใช้ส่วนต่างๆของนิ้วมือ แขน ไหล่ และส่วนอื่นๆของร่างกาย เป็นการ เตรียมความพร้อมในด้านการใช้กล้ามเนื้อใหญ่-เล็กเป็นอย่างดี ทำให้เด็กสามารถหยิบจับสิ่งต่างๆได้ อันจะนำไปสู่การเรียนของเด็กต่อไปศิลปะกับความคิดสร้างสรรค์ นักจิตวิทยาทางการศึกษาทั่วโลกเชื่อกันว่าเด็กทุกคนมีความคิด ริเริ่มสร้างสรรค์ และสามารถพัฒนาให้เจริญงอกงามได้ตามระดับความสามารถของแต่ละบุคคล ถ้า หากเด็กนั้นๆได้รับการเสริมและสนับสนุนให้มีการแสดงออกภายใต้ บรรยากาศที่มีเสรีภาพ สำหรับ เด็กที่มีความคิดสร้างสรรค์ในตัว สามารถพิจารณาจากพฤติกรรมได้หลายด้าน ดังนั้นจะเห็นได้ว่ากิจกรรมสร้างสรรค์ คือการ เจริญงอกงามทั้งด้านความคิด ร่างกาย และ พฤติกรรม และศิลปะคือ เครื่องมือที่ดีและเหมาะสมที่สุดในการส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ เพราะ กระบวนการทางศิลปะไม่มีขอบเขตแห่งการสิ้นสุด สามารถสร้างความเพลิดเพลินให้แก่เด็กได้ตลอด เวลานอกจากนี้ยังช่วยให้เด็ก เกิดความคิดที่ต่อเนื่องอย่างไม่จบสิ้น และก้าวไปยังโลกแห่ง จินตนาการอย่างไม่มีขอบเขต “Super Teacher”

ที่มา : http://special2.dusitcenter.org/cdcnews/content.php?nid=7271 | เลขที่ข่าวอ้างอิง : 7271