โครงการส่งเสริมการใช้แหล่งการเรียนรู้

สร้างโดย ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลสาคู (จังหวัดภูเก็ต)

ผู้จัดทำ นางสาวรัชนก แซ่หลิม

ประเภทตัวชี้วัด : สถานศึกษามีทรัพยากรและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการจัดประสบการณ์การเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ



            หน่วยงาน :งานพัฒนาสื่อการสอน โครงการ :โครงการส่งเสริมการใช้แหล่งการเรียนรู้ หลักการและเหตุผล : การส่งเสริมให้ครูผู้สอนจัดประสบการณ์โดยเน้นเด็กเป็นสำคัญ มุ่งเน้นให้เด็กเป็นผู้ศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง การได้ ไปหาความรู้ภายในและภายนอกโรงเรียน ถือเป็นกิจกรรมที่เด็กสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ตรงภายนอกห้องเรียนปัจจุบันการจัดการเรียนการสอนมุ่งเน้นให้เด็กเป็นผู้ศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง มิได้อยู่แต่ตามในโรงเรียน ส่งเสริมให้ครูผู้สอนจัดประสบการณ์โดยเน้นเด็กเป็นสำคัญ การจัดกิจกรรม Walk Rally และกิจกรรมทัศนะศึกษา จึงเป็นกิจกรรมที่เด็กสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ตรงภายนอกห้องเรียน และสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมให้เป็นผู้มีความเมตตา รักษาสิ่งแวดล้อม และได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆนอกห้องเรียน วัตถุประสงค์ : 1. เพื่อให้เด็กปฐมวัยได้รับความรู้และประสบการณ์ตรง 2. เพื่อให้เด็กปฐมวัยได้มีความกระตือรือร้นในการแสวงหาความรู้ 3. เพื่อให้เด็กปฐมวัยได้มีกิจกรรมร่วมกันรู้จักปรับตัวสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อเพื่อน ครู ผู้อื่น และช่วยกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม แนวทางการติดตามและประเมิณผล : - แบบประเมินแหล่งการเรียนรู้นอกห้องเรียน - ประเมินจากการสังเกตและจดบันทึก ประเมินความสำเร็จในภาพรวมคิดเป็นร้อยละ 80 เด็กเกิดการเรียนรู้นอกห้องเรียน และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ เด็กได้ลงมือปฏิบัติและเรียนรู้ ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงาน ได้แก่ 1. จำนวนเด็กเข้ามาเรียนรู้ มีจำนวนมากในแต่ละกลุ่มการเรียนรู้ 2. มีการปรับเปลี่ยนแผนการเรียนรู้บ่อย เพื่อให้สอดคล้องกับธรรมชาติและวุฒิภาวะของเด็กเพื่อให้บรรลุผลตามที่ตั้งไว้ 3. ระยะเวลาการแจกอุปกรณ์ในโครงการ ช้ากว่ากำหนดที่ตั้งไว้ 4. เด็กบางส่วนยังไม่ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ครูจัดเพราะเป็นช่วงเวลาพัก 5. ฐานแต่ละฐานติดกัน ทำให้เสียงดัง ต้องใช้สมาธิในการฟังมากขึ้น ข้อสังเกต / ข้อเสนอแนะอื่น ๆ 1. ควรจัดแหล่งการเรียนรู้ทุกเดือน จะมีผลสัมฤทธิ์มากกว่าเดิม 2. ควรจัดฐานให้ห่างกัน เพื่อประโยชน์ในการเรียนรู้ 3. วิทยากรทุกคนต้องศึกษาสิ่งที่จะให้ความรู้กับเด็กในเรื่องที่ตนรับผิดชอบ

ที่มา : http://special2.dusitcenter.org/cdcnews/content.php?nid=6462 | เลขที่ข่าวอ้างอิง : 6462