สรุปประเด็นข่าว

สร้างโดย ศพด.ธนสิทธิ์อนุสรณ์ (จังหวัดสมุทรปราการ)

ผู้จัดทำ นางสาวยุวดี นามอาสา

ประเภทตัวชี้วัด : สถานศึกษามีการจัดทำหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ


            6 เรื่องกังวลใจของพ่อแม่ เกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้อินเตอร์เน็ตของลูก สมัยนี้เด็กเล่นไอแพดเป็น ใช้มือสไลด์บนหน้าจอมือถือสมาร์ทโฟนได้ตั้งแต่ 2 ขวบ จนไม่น่าเป็นเรื่องแปลกใจไปแล้ว ว่าเทคโนโลยีเข้ามาใกล้ตัวเรามากขนาดไหน พ่อแม่ทุกท่านจึงจำเป็นต้องรับมือให้ดี นอกจากจะต้องรู้จักใช้เทคโนโลยีให้เป็นแล้ว ยังต้องคอยดูแลพฤติกรรมเกี่ยวกับการใช้อินเตอร์เน็ตของลูกด้วย เพราะทุกวันนี้บนโลกออนไลน์แทบจะเชื่อมกันเป็นหนึ่งเดียว และบางครั้งก็ซับซ้อนเกิดกว่าที่จะทำความเข้าใจกับลูกๆ ได้มีผลสำรวจจากกลุ่มพ่อแม่จำนวน 1,000 คน ที่มีลูกอายุระหว่าง 8-17 ปี ในเรื่องกังวลใจของพ่อแม่เกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้อินเตอร์เน็ตของเด็กๆ บนโลกออนไลน์ จากบริษัท Qualtrics ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค ที่น่าสนใจคือ 64% ของพ่อแม่จะคอยเฝ้าดูว่า เด็กๆ จะใช้เวลาหมดไปกับการใช้สมาร์ทโฟนเท่าไร 1 ใน 10 พ่อแม่เชื่อว่า เด็กๆ จะต้องเจอการกลั่นแกล้งจากพวกนักเลงคีย์บอร์ดอย่างแน่นอน 73% ของพ่อแม่กังวลใจในเรื่องที่เด็กๆ ดูในสมาร์ทโฟน ว่าเป็นเรื่องอะไร เข้าเว็บไซต์ไหนบ้าง หรือดูวิดีโออะไร 42% ชองพ่อแม่กังวลว่า เป็นไปได้ว่าเด็กๆ มีการพูดคุยกับคนแปลกหน้าผ่านอินเตอร์เน็ตแน่นอน พ่อแม่หลายคนเชื่อว่า พวกสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ จะส่งผลให้เด็กๆ เกิดความรู้สึกในเชิงบวกในแง่ความภูมิใจในตนเองที่มีตัวตนอยู่บนโลกออนไลน์ 38% พ่อแม่กังวลว่าการที่ลูกเล่นอินเตอร์เน็ต จะมีแนวโน้มเรื่องเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะเด็กผู้ชาย ที่มีโอกาสสูงกว่าเด็กผู้หญิงถึง 2 เท่า จากคำตอบที่ได้ส่วนใหญ่ของพ่อแม่ สิ่งที่เป็นเรื่องกังวลใจมากที่สุดคือการที่ลูกในวัยรุ่นจะใช้เพื่อหาคู่หรือหาเพื่อนคุย ซึ่งสอดคล้องกับข่าวล่อลวงเด็กผ่านเฟสบุ๊คหรือผ่านแชทต่างๆ ทำให้พ่อแม่รู้สึกเป็นห่วงและรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยของลูก ข้อเสนอแนะ พ่อแม่สามารถลดพฤติกรรมการใช้อินเตอร์เน็ตของลูกๆ ลงได้ด้วยการพาลูกออกไปทำกิจกรรมอย่างอื่น ให้เวลาลูกในการใช้อินเตอร์เน็ตอย่างเหมาะสม ใช้เวลาใกล้ชิดกับลูก และทำความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้สมาร์ทโฟน อย่างถูกต้อง คุณพ่อคุณแม่ก็จะลดความกังวลใจลงได้. อ้างอิง http://th.theasianparent.com/6-%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0อยากB8%87%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%A7%E0%B8%A5%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88-%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9E%E0%B8%A4%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B9%87%E0%B8%95%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81/ http://th.theasianparent.com/6-%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%A7%E0%B8%A5%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88-%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9E%E0%B8%A4%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B9%87%E0%B8%95%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81/

ที่มา : http://special2.dusitcenter.org/cdcnews/content.php?nid=5851 | เลขที่ข่าวอ้างอิง : 5851