ยิ้มไปเล่าไปให้ถึงใจกับกิจกรรมของหนู

สร้างโดย ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนไตรราษฎร์สามัคคี (จังหวัดนครราชสีมา)

ผู้จัดทำ นางตุ๊กตา นาเจริญ

ประเภทตัวชี้วัด : ผู้เรียนมีความรู้และทักษะที่จำเป็นตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย/แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้

            เด็กแรกเกิด ถึง 5 ปี เป็นช่วงระยะเวลาที่สำคัญที่สุดในการพัฒนาเด็กด้านต่างๆเช่น ทางด้านอารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญาถือเป็นหน้าที่หลักของพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูผู้ดูแลเด็ก ครูพี่เลี้ยง ผู้ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการเรียนรู้ที่เหมาะสมจากการปฏิสัมพันธ์ระหว่าง เด็กกับครูผู้ดูแลเด็ก เด็กกับครูพี่เลี้ยง ชุมชนที่เด็กอาศัยอยู่ในการส่งเสริมพัฒนาการทุกๆด้านอย่างเต็มที่เต็มตามศักยภาพตามความแตกต่างระหว่างบุคคลการจัดการศึกษาปฐมวัยเพื่อพัฒนาเด็กให้เป็นไปอย่างมีคุณภาพ และเหมาะสมตามวัยตลอดจนเป็นการแบ่งเบาภาระของผู้ปกครอง และเป็นพื้นฐานสำหรับการศึกษาขั้นสูงต่อไป ในสังคมปัจจุบันพ่อแม่ช่วยเหลือลูกจนเคยชิน ทำให้ลูกทำอะไรไม่ค่อยได้ตามวัย เช่น ไม่ให้ลูกกินข้าวเอง กลัวหกเลอะเทอะ ไม่ให้วิ่งเล่นกลัวหกล้ม มีแผลถลอก ไม่ให้ปีนป่าย กลัวตกลงมา เมื่อส่งลูกเข้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ลูกก็ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เพราะขาดทักษะการช่วยเหลือตัวเองเบื้องต้นในการดำเนินชีวิตประจำวัน ซึ่งทางศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเจอบ่อยมากในกรณีนี้ ดังนั้นทางศูนย์พัฒนาเด็กเล็กได้เห็นความสำคัญในการช่วยเหลือตัวเอง ให้มีทักษะในการดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุขในสังคม จึงได้พัฒนาทักษะการช่วยเหลือตัวเองเบื้องต้นในรูปแบบการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น การอาบน้ำแต่งตัว ฝึกการสวมใส่เสื้อผ้าด้วยตนเอง ฝึกการรับประทานอาหารด้วยตัวเอง ซึ่งตรงนี้เองเด็กจะมีความภูมิใจในตนเอง และผู้ปกครองก็ภูมิใจที่ลูกสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ การทำกิจกรรมเป็นกลุ่ม เพื่อฝึกให้เด็กรู้จักเรียนรู้และปรับตัวในสังคม ทำให้เด็กเรียนรู้จักคำว่าขอโทษ ขอบคุณ การให้อภัย การอดทนรอคอย เคารพกติกาการอยู่ร่วมกับผู้อื่น และพัฒนาทักษะทางด้านร่างกายกล้ามเนื้อมัดใหญ่มัดเล็ก เช่นการจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะพร้อมทั้งส่งเสริมสุนทรีภาพทำให้เด็กเพลิดเพลินผ่อนคลายไม่ตึงเครียดสนุกสนาน และส่งเสริมกิจกรรมวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เพื่อปลูกฝังและส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมที่ดีงามของสังคมไทยต่อไป ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าเป็นเด็กดี เด็กเก่ง เด็กฉลาด และมีความสุข

ที่มา : http://special2.dusitcenter.org/cdcnews/content.php?nid=3758 | เลขที่ข่าวอ้างอิง : 3758