ศึกษานอกสถานที่ อนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อม
สร้างโดย ศพด.สามหนองสามัคคีเทศบาลตำบลพันนา (จังหวัดสกลนคร)
ผู้จัดทำ ฉวีวรรณ สาริบุตร
ประเภทตัวชี้วัด : ผู้เรียนมีจิตสำนึกในการอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อมร่วมกับผู้ปกครองและชุมชน
โลกทุกวันนี้มีแต่สิ่งที่ไม่ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ โดยเฉพาะในเรื่องธรรมชาติรอบตัวเรา เช่นอากาศไม่บริสุทธิ์ได้พบปัญหาหลายอย่างที่เป็นสาเหตุอย่างเช่น การตัดไม้ทำลายป่า การเผาป่า การทิ้งขยะไม่เป็นที่ ฯลฯ ดังนั้นทางศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสามหนองสามัคคีจึงมีการพัฒนาการปรับภูมิทัศน์ทำให้สภาพแวดล้อมน่าอยู่โดยพานักเรียนปลูกต้นไม้ ไม้ดอกไม้ประดับสวยๆจะได้ทำให้จิตใจเบิกบาน สดชื่นและจะได้เป็นศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่น่าดู น่าอยู่ น่าเรียน ผู้คนผ่านไปมาหรือผู้ปกครองมารับส่งบุตรหลานได้มาเห็นก็จะได้มีความมั่นใจในศูนย์ฯว่าบุตรหลานมาอยู่ในสถานที่แห่งนี้คงจะมีความสุขสุขภาพจิตของเด็กก็จะดี การปลูกต้นไม้ การดูแลรักษาเป็นการปลูกฝังส่งเสริมให้เด็กปฐมวัยมีคุณธรรม จริยธรรมและให้เด็กได้เรียนรู้หน้าที่ของตนเอง มีนิสัยรักในการปลูกต้นไม้และการดูแลรักษา เด็กนักเรียนจะได้มีพัฒนาการในการเจริญเติบโตสมวัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี ครูปฐมวัยจึงได้ตระหนักถึงความสำคัญ จึงได้จัดประสบการณ์และกิจกรรมการเรียนการสอนที่ส่งเสริมให้เด็กๆได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริงและสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ การจัดประสบการณ์และกิจกรรมการเรียนการสอนนั้นกิจกรรมที่เด็กๆชอบอีกกิจกรรมหนึ่งก็คือกิจกรรมการเล่านิทานเพราะว่าเด็กในวัยนี้ชอบฟังนิทานเป็นพื้นเบื้องต้นอยู่แล้วพร้อมทั้งธรรมชาติของเด็กวัยนี้มีจินตนาการกว้างไกล มีความคิดสร้างสรรค์แต่เนื้อหาควรเป็นเนื้อหาที่ไม่ซับซ้อนนักใช้ภาษาง่ายๆดึงเอาตัวละครที่อยู่ในเรื่องนั้นออกมาแล้วมาเป็นตัวเด็กแล้วเอาตัวเด็กมาเล่นเป็นตัวละครตัวนั้นเด็กก็จะสนุกกับการที่ครูเล่านิทานและครูก็ใช้สื่อประกอบ เช่นหุ่นมือหรือใช้หัวหุ่นรูปสัตว์ต่างๆที่เกี่ยวกับนิทานและสำคัญการใช้น้ำเสียงในการเล่านิทานหรือบางครั้งครูก็เชิญแขกพิเศษมาคุยมาเล่ากับเด็ก เด็กจะสนุกสนานและตื่นเต้นเพลิดเพลินมีความสุขในการฟังแต่กิจกรรมนั้นควรมีกำหนดเวลาที่แน่นอน ถ้าเด็กเหนื่อยเกินกว่าจะรับเรียนแล้วครูดูก็ต้องเปลี่ยนกิจกรรมใหม่แล้วเก็บเด็กให้เข้าที่เสียก่อนแล้วครูก็พาเล่นกิจกรรมใหม่ต่อไป วันนี้ใครจะเป็นเด็กดีของคุณครูเอ่ย หากว่าเรากำลังสบายจงส่งเสียงดัง ฮ่า ฮ่า หากว่าเรากำลังสบายจง งอ เอีย บอ เงียบ แล้วเด็กก็ทำสมาธิเพื่อผ่อนคลายแต่ละกิจกรรมสามารถยืดหยุ่นๆได้ แล้วต่อไปครูก็ถามว่าใครอยากเล่นอะไรเอ่ย หนูอยากเล่นตุ๊กตาค่ะ หนูอยากเล่นเป็นหมอครับ แล้วครูก็ให้เล่นตามมุมอิสระ หรือบางวันก็เล่นกิจกรรมกลาง หรือออกไปทัศนศึกษานอกสถานที่ ครูถามนักเรียน นักเรียนวันนี้อากาศดีมากเมื่อคืนฝนตกทั้งคืนเลย ใครได้ยินเสียงอะไรร้องบ้างตอนกลางคืน น้องเอ๋? ได้ยินเสียงอะไรบ้างคะเมื่อคืน ได้ยินเสียงกบร้องค่ะ ถูกต้อง เก่งมาก ทีรู้จักสังเกต กบมันร้องเสียงอย่างไรคะ? กบมันร้อง โอ๊บ โอ๊บ ค่ะ เก่งมากเพื่อนๆปรบมือให้น้องเอ๋คนเก่งด้วนค่ะ แล้วครูก็เล่าเรื่องฝน ประโยชน์และโทษของฝน วันนี้จะเล่าเรื่องประโยชน์ของฝนที่ทำให้เรามีข้าวกินทุกวันนี้ก็เพราะฝน ครูก็เลยบอกว่าวันนี้ครูจะพานักเรียนไปดูชาวนาทำนาว่าเป็นอย่างไรกว่าจะมาเป็นข้าวให้เรากินแต่ละเม็ดว่าลำบากแค่ไหน พ่อ แม่เราหลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินสุดแสนจะลำบาก กว่าจะได้ข้าวแต้ละเม็ดไปขายมาเป็นเงินให้ลูกซื้อสิ่งของ ซื้อขนม พ่อ แม่อดทนและขยันมาก แล้วครูก็พาเด็กไปทัศนศึกษานอกสถานที่ใกล้ๆศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่เป็นทุ่งนาที่กำลังดำนาอยู่ ครูก็นำเด็กออกจากศูนย์ฯจัดแถวแล้วเดินเป็นแถวไป ขณะที่เดินทางไปผ่านทางครูก็ชี้ให้ดูป่าข้างทาง ดูนก ดูแมลงต่างๆ และบอกว่าสัตว์เหล่านี้มันก็ต้องการกินอยู่เหมือนคนอย่าไปทำลายและทำร้ายต่างก็อาศัยซึ่งกันและกัน และไปก็ไปถึงทุ่งนา ครูอธิบายให้ฟังก่อนจะเป็นข้าวต้องหว่านเป็นต้นกล้าเสียก่อนแล้วค่อยนำไปปักดำแล้วค่อยออกรวงมาเป็นเมล็ดข้าวมาให้เรากิน วันนั้นเด็กๆนักเรียนมีความสุขมากและสนุกสนานมีความชื่นชมในสิ่งที่ได้พบเห็นที่ได้ออกมาเห็นสิ่งแวดล้อมต่างๆที่ดีและอากาศก็เย็น สรุป ครูก็คือแม่คนที่สองที่รักและดูแลให้ความอบอุ่นความไว้วางใจแทนแม่ เด็กต้องการครูทีเป็นทั้งเพื่อนที่ดี เป็นทั้งผู้นำและเป็นผู้ที่เข้าใจเขา ไม่ว่าเขาจะเก่ง หรือไม่เก่งครูก็จะอยู่กับเขา ให้กำลังใจเขา ช่วยให้เขารู้จักตนเอง ช่วยเหลือตนเองได้ ไม่หวั่นไหว และกล้าที่เดินไปข้างหน้าอย่างมั่นใจกิจกรรมและประสบการณ์ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียนเป็นสิ่งสำคัญต่อการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย สิ่งแวดล้อมมีอิทธิพลต่อการพัฒนาของเด็ก ดังนั้นศูนย์พัฒนาเด็กเล็กจึงต้องจัดสภาพแวดล้อมในศูนย์ฯที่เอื้อต่อการเรียนรู้ที่ดีให้ตอบสนองความต้องการของเด็ก และส่งเสริมพัฒนาการของเด็กให้ถึงขีดสามารถที่เด็กมีอยู่
ที่มา : http://special2.dusitcenter.org/cdcnews/content.php?nid=3742 | เลขที่ข่าวอ้างอิง : 3742