โครงการ “มสด. ส่งยิ้มทั่วไทยให้ครูเล่าเรื่อง”

สร้างโดย ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองเต็ง (จังหวัดนครราชสีมา)

ผู้จัดทำ นาง จำรัส อุ่นดี

ประเภทตัวชี้วัด : สถานศึกษาสามารถจัดการประสบการณ์การเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพและเน้นผู้เรียนเป็นสําคัญ



            ชื่อ นาง จำรัส อุ่นดี รหัส 541031321041 รุ่น 6/2 กลุ่ม 2 เป็นผู้ดูแลเด็กปฐมวัย ณ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองเต็ง สังกัด องค์การบริหารส่วนตำบลช้างทอง อ. เฉลิมพระเกียรติ จ. นครราชสีมา ข้าพเจ้าได้เข้าร่วมโครงการ มสด. ส่งยิ้มทั่วไทยให้ครูเล่าเรื่อง โดยผ่านการจัดประสบการณ์ให้กับเด็กโดยข้าพเจ้าได้ ตั้งชื่อเรื่องว่า พื้นดิน คืนป่า โดยการจัดกิจกรรมพาเด็กไปทัศนะศึกษา จากศูนย์การเรียนรู้ในชุมชน คือ ศูนย์เพาะชำกล้าไม้หนองเต็ง ซึ่งโดยธรรมชาติของเด็กปฐมวัยชอบเรียนรู้ผ่านการเล่น การเล่นช่วยให้เด็กได้ฝึกการใช้ประสาทสัมผัสและส่งเสริมพัฒนาการทุกๆด้น ได้แก่ พัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา เด็กในศูนย์รักการเรียนรู้สิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติ การปลูกฝังเจตคติที่ดีให้กับเด็กมีผลต่อการเล่นทุกครั้งที่ได้เล่นโดยผ่านสื่อธรรมชาติ และให้เด็กศึกษาและค้นพบด้วยตนเอง ข้าพเจ้าจึงจัดประสบการณ์ให้กับเด็กโดยจัดทำโครงการทัศนะศึกษาตามแหล่งเรียนรู้ในชุมชน ซึ่งนำมาโดยเรื่องการพาเด็กไปทัศนะศึกษา ณ ศูนย์เพาะชำกล้าไม้หนองเต็ง เพื่อปลูกฝังให้เด็กรักธรรมชาติรักสิ่งแวดล้อมรักป่าในชุมชนของตนเอง เด็กได้รับการฟังบรรยายจากเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์เพาะชำในเรื่องของต้นไม้ กล้าไม้ ความแตกต่าง และเด็กได้ทดลองลงมือทำโดยเจ้าหน้าที่กรอกถุงเพื่อรอเพาะเมล็ด การกรอกถุงเด็กได้ใช้กล้าเนื้อมือ และได้ช่วยกันเพาะต้นกล้า ปลูกต้นหล้าเด็กๆมีความสนุกสนาน และมีความสุขในการเดินชมต้นกล้าที่เขียนขจีที่ศูนย์เพาะชำ เด็กมีการสอบถามถึงความแตกต่างได้ดมกลิ่น ได้สัมผัสต้นไม้ ต้นกล้า ได้รู้ถึงวิธีการดูแลรักษาต้นไม้และได้ช่วยทั้งลงมือปฏิบัติกันเองซึ่งเป็นประโยชน์กับเด็กมาก นอกจากความสนุกสนานของเด็กแล้วเด็กยังได้รับประโยชน์ทำให้รักป่ารักต้นไม้ช่วยกันฟื้นฟู สภาพป่าที่ถูกทำลายมามีสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งจะต้องได้รับความร่วมมือจากหลายฝั่งรวมทั้งราษฎรในพื้นที่ นั่นก็คือ เด็กๆที่จะเจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า เด็กๆรู้ว่าผลของการปลูกป่าทำให้เกิดความร่มเย็น ความชุ่มชื้น เกิดร่มเงา เกิดฝน โดยจากการจัดกิจกรรมครั้งนี้เด็กได้ลงมือปฏิบัติจริงตามขั้นตอนกระบวนการโดยมีขั้นนำ ขั้นสอนและขั้นรูปเด็กๆสามารถถ่ายทอดประสบการณ์ ด้านการสนนทนา อธิบายและเล่าเป็นเรื่องราวรู้จักสังเกตความแตกต่าง เด็กได้ประสบการณ์สำคัญซึ่งข้าพเจ้าคิดว่า เป็นการจัดกิจกรรมนอกห้องเรียนที่คุ้มที่สุดอีกกิจกรรมหนึ่ง

ที่มา : http://special2.dusitcenter.org/cdcnews/content.php?nid=3682 | เลขที่ข่าวอ้างอิง : 3682