ส่งยิ้มทั่วไทย ให้ครูเล่าเรื่อง
สร้างโดย ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โรงเรียนวัดสมบูรณ์สามัคคี (จังหวัดนครนายก)
ผู้จัดทำ นางสาว ศิริรัตน์ ทีปั่น
ประเภทตัวชี้วัด : สถานศึกษามีการจัดองค์กรโครงสร้างระบบการบริหารและพัฒนาองค์กรอย่างเป็นระบบและครบวงจร
ดิฉันในฐานะแม่คนที่ ๒ ของลูกในบ้านหลังที่ ๒ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลเขาพระ โรงเรียนวัดสมบูรณ์สามัคคี แรกเริ่มก่อนดิฉันเข้ามาทำงานเป็นครู ดิฉันรู้สึกกังวลใจมาก เพราะคิดว่าการดูแลเด็กเล็กเป็นเรื่องยากสำหรับคนที่ยังไม่เคยมีครอบครัวมาก่อนอย่างฉัน แต่เมื่อเวลาผ่านไป ฉันรู้สึกรักอาชีพนี้ และคิดว่าไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปที่จะดูแลลูก ๆ ในบ้านหลังนี้ให้มีความสุข ฉันมีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นรอยยิ้มของลูก ๆ ในบ้าน ไม่อยากจะทิ้งลูก ๆ ไปไหนแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว อยากจะมอบความรัก ความอบอุ่น และถ่ายทอดความรู้เท่าที่แม่คนหนึ่งจะให้แก่ลูกได้ และวันนี้ฉันอยากจะเล่าเรื่องราว กิจกรรม ที่น่ารักของลูก ๆ ในบ้านหลังนี้ ให้ทุกคนได้ยิ้มไป พร้อม ๆ กันกับฉัน ถึงความน่ารักของลูก ๆ ในบ้านหลังนี้ เรื่องเล่าของฉันมีอยู่ว่า เช้าวันหนึ่งของวันอังคารฉันได้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามหน่วยการเรียนรู้ ซึ่งอาทิตย์นี้ เป็นการเรียนรู้เรื่อง ผลไม้ ดิฉันมีตะกร้าผลไม้อยู่ ๑ ตะกร้า ดังนั้น ฉันจึงนำตะกร้าผลไม้วางคู่กับกระมังน้ำ เมื่อเด็ก ๆ เห็น ต่างพากันดีใจ แต่ก็ไม่รู้ว่าคุณครูจะทำอะไรในวันนี้ แต่ก่อนการเล่นกิจกรรมที่เตรียมไว้ ดิฉันได้อ่านหนังสือคำกลอน ผลไม้ ให้เด็ก ๆ ได้ท่องตาม รวมถึงอธิบายลักษณะ สี รูปร่าง ให้เด็ก ๆ ได้ทราบ แล้วดิฉันก็ได้ให้น้องออโต้ หยิบผลไม้ขึ้นมา ๑ ชิ้น แล้วถามว่าลูกอะไร น้องออโต้รีบตอบทันทีว่า มันคือ ส้มเขียวหวาน หนูเคยกิน แม่อ้อมเคยซื้อมาให้กินที่บ้าน เด็ก ๆ พากันพูดคุยถึงผลส้มที่อยู่ในมือน้องออโต้ ว่า รสชาติหวานบ้าง เปรี้ยวบ้าง ต่อจากนั้นดิฉันถามเด็ก ๆ ว่า มีกระมังน้ำอยู่ เด็ก ๆ คิดว่าผลไม้จะจมหรือจะลอย แล้วลองให้เด็ก ๆ ผลัดเปลี่ยนกันนำผลไม้ในตะกร้าลองหย่อนลงไป ผลปรากฏว่าผลไม้ ลอย เด็ก ๆ พากันตื่นเต้นแล้วก็ซักถามว่าทำไมมันถึงไม่จม ดิฉันให้คำตอบเด็ก ๆ ไปว่า ผลไม้ที่อยู่ในตะกร้าเป็นผลไม้ปลอม มีน้ำหนักเบา มันจึงลอยน้ำ เมื่อเสร็จสิ้นกิจกรรมการทดลองนี้แล้ว ดิฉันได้พาเด็ก ๆ ออกไปห้องสมุด เพื่อไปหาความรู้เพิ่มเติม และเมื่อไปถึงห้องสมุด เด็ก ๆ ก็ต่างพากันดีใจเมื่อได้เจอกับหุ่นเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชาย ใส่เสื้อผ้าแปลก ๆ ไม่เหมือนกับที่เด็ก ๆ ใส่ น้องจินนี่จึงถามดิฉันว่าเค้าเป็นใคร ดิฉันหัวเราะ แล้วอธิบายว่า นี่เป็นหุ่น ไม่ใช่คน เราสามารถจับได้ แต่ต้องจับอย่างระมัดระวัง เด็ก ๆ ให้ความสนใจและต่างพากันสงสัยเกี่ยวกับการแต่งกายของหุ่นคู่นี้ ดิฉันจึงได้อธิบายถึงลักษณะการแต่งกายที่หุ่นใส่ ว่าเป็นชุดประจำชาติของประเทศบรูไน ซึ่งเป็น ๑ ใน ๑๐ ประเทศอาเซียน ที่เราควรรู้จัก และดิฉันได้สอนภาษาทักทายของ ๑๐ ประเทศอาเซียนให้เด็ก ๆ พูดทุกวัน เพื่อเป็นการส่งเสริมทางด้านภาษา และเมื่อสิ้นปีการศึกษา ๒๕๕๕ ที่ผ่านมา น้องจินนี่ได้เข้าไปสอบแข่งขัน เพื่อเข้ารับการศึกษาต่อในระดับอนุบาล ของโรงเรียนอนุบาลนครนายก น้องจินนี่ได้สอบผ่าน ๑ ใน ๒๐ คน ที่ได้รับการคัดเลือกเข้าเรียน เพราะน้องจินนี่ได้ภาษาของ ๑๐ ประเทศอาเซียนที่ได้รับการสอนจากบ้านหลังนี้ และจากความรู้สามารถของตัวน้องเองด้วย เป็นผลให้น้องได้รับคำชมจากคุณครูฝรั่งที่เป็นผู้สัมภาษณ์เข้าเรียน และคุณครูอีกหลายท่านที่ร่วมสัมภาษณ์ หลังจากดิฉันได้อธิบายถึงประเทศอาเซียนที่เด็ก ๆ ควรรู้จักแล้ว ดิฉันก็ได้ให้เด็ก ๆ มีอิสระในการค้นคว้าหาความรู้จากห้องสมุด โดยมีดิฉันเป็นผู้กำกับดูแลความเรียบร้อย ซึ่งเด็ก ๆ ต่างก็มีความสุข และให้ความสนใจเป็นอย่างดี สามารถปฏิบัติตามกฎ กติกาของห้องสมุดได้ จนเมื่อใกล้จะหมดเวลาออกจากห้องสมุด น้องมิโอะเจอหนังสือเล่มหนึ่ง ปกหนังสือมีมีรูปขนมไทยหลายชนิด สีสันสวยงาม น่ารับประทาน น้องมิโอะได้หยิบหนังสือเล่มนั้นมาถามถึงชื่อของขนมแต่ละอย่าง ว่ามีชื่ออะไรบ้าง เมื่อน้องมิโอะนำหนังสือมาให้ดู ดิฉันก็ได้บอกชื่อไปพร้อมอธิบายเกี่ยวกับลักษณะ รสชาติ สี ของขนมให้น้องมิโอะได้ทราบ และเมื่อเด็ก ๆ หลายคน เห็นดิฉันอ่านหนังสือเล่มนี้ เด็ก ๆ ก็เริ่มหันหน้ามามองหนังสือเล่มที่ดิฉันอ่านอยู่ และกลับมาให้ความสนใจในหนังสือขนมไทยเล่มนี้เป็นอย่างมาก พร้อมทั้งบอกว่าไม่เคยทานและอยากรับประทาน ดิฉันจึงคิดว่าจะทำขนมไทย ๑ อย่าง เพื่อให้เด็ก ๆ ได้รู้จักและได้ชิมรสชาติขนมไทย ซึ่งขนมไทยก็เป็นขนมของ ๑ ใน ๑๐ ประเทศอาเซียน ที่คุณครูจะสอนต่อไป ดังนั้น ดิฉันจึงบอกเด็ก ๆ ว่า เราจะทำขนมอะไรกันดี น้องจินนี่แนะนำเพื่อน ๆ ว่า ขนมทองหยิบ เพราะมันหวาน น้องมิโอะบอกว่าอยากทำขนมลูกชุบ เพราะมีสีสันสวยงามและก็มีผลไม้หลายอย่างในขนม และเมื่อดิฉันตามความคิดเห็นของเด็ก ๆ ซึ่งเด็ก ๆ หลายคน ให้ความเห็นว่า จะทำขนมลูกชุบ เพราะมีสีสันสวยงาม น่ารับประทาน จากนั้นดิฉันสรุปกับเด็ก ๆ ว่า ในวันพุธ เราจะทำขนมไทยกัน นั่นก็คือ ขนมลูกชุบ และก็พาเด็ก ๆ กลับห้องเรียนทำกิจกรรมตามปกติ จนได้เวลากลับบ้าน เช้าของวันพุธ ก่อนการเข้าแถว เคารพธงชาติ คุณครูรับเด็กและพาเด็ก ๆ เดินเก็บขยะรอบ ๆ บ้าน เด็ก ๆ ได้เดินสำรวจต้นไม้ ดอกไม้ รอบ ๆ บ้าน และก็ได้ไปหยุดยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งข้าง ๆ บริเวณวัด เนื่องจากบ้านของลูก ๆ อยู่ติดกับเขตของวัดสมบูรณ์สามัคคี จึงเป็นเรื่องง่ายที่จะมีต้นโพธิ์อยู่บริเวณวัด น้องน้ำฝนเก็บใบไม้ขึ้นมา ๒ ใบ แล้วถามดิฉันว่า ใบอะไรคะคุณครู ดิฉันยิ้มแล้วบอกไปว่า มันคือใบโพธิ์ค่ะ เด็ก ๆ ถามว่ามันมีประโยชน์หรือไม่ ในตอนแรกดิฉันคิดจะตอบเด็ก ๆ ไปว่า ไม่มีประโยชน์ แต่อีกใจคิดขึ้นมาได้ว่าเราลองหาประโยชน์จากใบไม้ชนิดนี้ดู และก็นึกขึ้นมาได้ว่าจะให้เด็ก ๆ ทำงานศิลปะ โดยใช้ใบโพธิ์เป็นวัสดุ จึงได้ตอบเด็ก ๆ ไปว่า ใบไม้ทุกชนิดมีประโยชน์ ขึ้นอยู่ที่เราจะมองเห็นและใช้ประโยชน์แบบไหน เช่น เก็บใบไม้มาทำปุ๋ย หรือเก็บใบไม้ไปไว้โคนต้นไม้ เพื่อคลุมดินก็ได้ หรือเราจะเอามาสร้างสรรค์งานศิลปะก็ยังได้ ดังนั้น ดิฉันจึงได้ให้เด็ก ๆ เก็บใบโพธิ์บางส่วนไปไว้ที่ใต้ต้นไม้ และเก็บบางส่วนใส่ตะกร้า ไปล้างทำความสะอาด และนำไปสร้างสรรค์งานศิลปะต่อไป ซึ่งเด็ก ๆ ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เมื่อถึงเวลาทำกิจกรรมสร้างสรรค์ เด็ก ๆ ต่าง ช่วยกันตัดใบโพธิ์และแปะลงในกระดาษที่ดิฉันวาดภาพไว้ให้ และนี่ก็เป็นอีกภาพความประทับใจที่ได้เห็นลูก ๆ ช่วยเหลือกันและเรียนรู้จักคุณค่า และประโยชน์ของสิ่งรอบตัว โดยไม่ต้องสิ้นเปลืองเงินทอง ต่อมาเมื่อถึงเวลาเล่นกิจกรรมเสรี ดิฉันได้เตรียมอุปกรณ์ในการทำขนมลูกชุบไว้ที่โต๊ะ นั่นก็คือ ถั่วเขียวที่นึ่ง บดปั่นรวมกับน้ำกะทิ และน้ำตาล เคี้ยวจนสามารถปั้นเป็นรูปทรงต่าง ๆ ได้ สีผสมอาหาร พู่กัน ไม้เสียบลูกชิ้น และอุปกรณ์อื่น ๆ อีก สำหรับทำขนมลูกชุบ และเมื่อเด็ก ๆ เข้ามาในห้องเรียน ทุกคนต่างพากันดีใจที่วันนี้ดิฉันจะพาทำขนมลูกชุบ และจะได้ลองชิมว่าจะอร่อยแค่ไหน เมื่อถึงเวลาลงมือปั้น ดิฉันได้สาธิตการปั้นเป็นรูปมังคุด แครอท พริกหยวก ส้ม และให้เด็ก ๆ ได้ลองทำ ทุกคนสนุกสนานมากกับการปั้นลูกชุบ รวมทั้งการระบายสีลงในผลไม้ที่ตนเองปั้น เด็ก ๆ ต่างตั้งใจทำและช่วยเหลือกันและกันเป็นอย่างดี ดิฉันเห็นเด็ก ๆ ให้ความสนใจและช่วยเหลือเพื่อน ดิฉันเห็นแล้วรู้สึกมีความสุขที่ได้เห็นลูก ๆ มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เมื่อเสร็จสิ้นกิจกรรม เด็ก ๆ ต่างพากันรับประทานขนมลูกชุบอย่างมีความสุข โดยไม่เห็นแก่ตัว เผื่อแผ่เพื่อนทุกคนด้วยความยินดี ซึ่งเป็นภาพที่จะติดตรึงไว้ในจิตใจของฉันไปจนวันตาย จากกิจกรรมต่าง ๆ ที่เล่ามายังมีกิจกรรมที่ลูก ๆ ในบ้านหลังนี้ได้สร้างชื่อเสียงให้แก่บ้านหลังนี้อีกมากมาย แต่นี่เป็นส่วนหนึ่งมีอยากจะหยิบยกมาเล่าให้ฟังถึงความน่ารัก และความอดทนในการปฏิบัติภารกิจที่ตัวเองได้รับมอบหมาย เมื่องานวันเด็กแห่งชาติปี ๒๕๕๖ ที่ผ่านมานี้ เด็ก ๆ ได้เข้าร่วมกิจกรรมการเต้นประกอบเพลง เรามาซิง ของเบิร์ด ธงไชย ซึ่งจากวันแรกของการซ้อม จนถึงวันที่ได้แสดงจริง เด็ก ๆ ต่างมุ่งมั่น และขยันฝึกซ้อมเป็นอย่างดี เพราะดิฉันจะเปิดเพลงให้เด็ก ๆ ได้เต้นช่วงเช้าก่อนการเริ่มการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ซึ่งจากการซ้อมอย่างสม่ำเสมอ เป็นผลให้ในวันแสดงจริง เด็ก ๆ กล้าแสดงออกและเต็มที่กับการเต้นครั้งนี้มาก จนเรียกเสียงปรบมือจากท่านนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเขาพระ และประชาชนผู้รับชม ได้อย่างล้นหลาม สร้างความภูมิใจให้กับตัวเด็กเป็นอย่างมาก และมีของรางวัลเป็นตุ๊กตาตัวใหญ่ให้กับเด็กผู้หญิง และมีเครื่องบินลำใหญ่ ให้กับเด็กผู้ชาย ซึ่งแววตาหลังจากการแสดงจบลง เด็ก ๆ มีความสนุกสนานและตื่นเต้นมาก เนื่องจากเพลงประกอบการเต้น เรียกความกล้าของคนข้างเวทีให้ขยับร่างกายตามจังหวะเสียงเพลง และมีคุณครู ผู้ปกครอง ยืนเป็นกำลังใจให้อยู่หน้าเวที หลังจากนั้นเด็ก ๆ ได้เข้าร่วมกิจกรรมเล่นเกมที่หน่วยงานต่าง ๆ จัดเตรียมไว้ให้ และรับประทานอาหารฟรีตลอดงาน สร้างความสุขกาย สบายใจให้เด็กและผู้ปกครองเป็นอย่างมาก ภาพแห่งความประทับใจเกิดขึ้นอีกครั้งหลังจากที่ได้เห็นความสำเร็จของลูก ๆ และรอยยิ้มที่มีความสุขโดยไม่มีคำบรรยายใด ๆ สามารถอธิบายความรู้สึกได้ดี เท่ากับภาพความจำครั้งนั้น ต่อมาหลังจากกิจกรรมงานวันเด็กแห่งชาติจัดผ่านไปไม่นาน ก็ได้มีงานแห่เทียนเข้าพรรษาที่องค์การบริหารส่วนตำบลเขาพระจะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีและวัฒนธรรมไทย ไม่ให้เสื่อมหายไปจากสังคมไทย และเป็นการปลูกฝังค่านิยมที่ดีให้แก่ลูกหลานชาวตำบลเขาพระ ให้คงสืบต่อไป ซึ่งทางศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลเขาพระ ทั้งศูนย์โรงเรียนเกาะกระชายและศูนย์สมบูรณ์สามัคคี ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าว โดยได้นำลูก ๆ ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเข้าร่วมกิจกรรม เพื่อให้ลูก ๆ ได้สำนึกในวัฒนธรรมและประเพณีไทยของคนไทย ซึ่งน้องมิโอะ และน้องจินนี่ เป็นผู้รับอาสาในการนั่งรถขบวนแห่เทียนในครั้งนี้ ก่อนการเริ่มขบวนแห่ เด็ก ๆ ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กต่างมาชื่นชมการจัดขบวนเทียนของหมู่บ้านและมาดูน้องมิโอะ และน้องจินนี่ที่แต่งกายชุดผ้าไทย เด็ก ๆ ตื่นเต้นและยืนถ่ายรูปคู่กับน้องมิโอะและน้องจินนี่ อย่างมีความสุข เมื่อขบวนออก ระยะทางไป – กลับ รวม ประมาณ ๒๐ กิโล ประกอบกับอากาศช่วงสายเริ่มร้อน ดิฉันกังวลใจมาก กลัวลูก ๆ จะร้อนและหิวนม แต่เหตุการณ์ไม่เป็นอย่างที่คิดกังวลไว้ ทั้งน้องมิโอะ และน้องจินนี่ สามารถปฏิบัติภารกิจที่ตนเองได้รับมอบหมายได้สำเร็จไปด้วยดี และยังได้รับคำชมจากชาวบ้านที่พบเห็น ว่าน่ารัก และเก่ง สมกับคำที่ว่า “ เล็กพริกขี้หนู ” จริง ๆ จากที่ดิฉันเล่ามาทั้งหมด อาจจะทำให้ผู้อ่านยิ้มหรือไม่ก็ตาม แต่สิ่งที่ดิฉันกล่าวมาทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นสิ่งที่ดิฉันรู้สึกประทับใจและอยากจะถ่ายทอดความรู้สึกในใจของดิฉันต่ออาชีพที่สูงศักดิ์นี้ และสมาชิกตัวน้อย ๆ ในบ้านหลังนี้ให้แก่ผู้อ่านทุกท่านได้มีความสุขและยิ้มไปพร้อม ๆ กับดิฉัน ภาพความทรงจำจากที่ผ่านมา และอนาคตที่ยังไม่เกิดขึ้น ดิฉันจะสร้างฝันให้กับลูก ๆ ของดิฉันทุกคน ให้เป็นกำลังสำคัญที่จะร่วมกันพัฒนาประเทศชาติสืบไป
ที่มา : http://special2.dusitcenter.org/cdcnews/content.php?nid=3672 | เลขที่ข่าวอ้างอิง : 3672