โครงการกีฬาสีสัมพันธ์
สร้างโดย ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลเชียงรากน้อย (จังหวัดพระนครศรีอยุธยา)
ผู้จัดทำ นางวันวิสา ตลับทอง
ประเภทตัวชี้วัด : สถานศึกษามีการจัดองค์กรโครงสร้างระบบการบริหารและพัฒนาองค์กรอย่างเป็นระบบและครบวงจร
สวัสดีค่ะ ดิฉันนางวันวิสา ตลับทอง ตำแหน่งครูผู้ดูแลเด็ก จบการศึกษาปฐมวัยจากโครงการร่วมมือรุ่นที่ ๕ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลเชียงรากน้อย อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ด้วยศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลเชียงรากน้อย เป็นศูนย์การเรียนรู้ก่อนปฐมวัย เป็นการพัฒนาเด็กเล็กในด้านการเตรียมความพร้อมด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม สติปัญญา ปีการศึกษา ๒๕๕๕ มีเด็กเข้ารับการเรียนรู้ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ จำนวน ๑๒๐ คน ดังนั้นศูนย์พัฒนาเด็กเล็กจึงได้จัดทำโครงการแข่งขันกีฬาสีเด็กอนุบาล ๓ ขวบ โดยมีสีเขียว สีชมพู และสีฟ้า เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ความรู้เพิ่มทักษะปลูกฝังการมีน้ำใจนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย มีระเบียบวินัยความสามัคคี อดทน การปฏิบัติตามกติกาข้อตกลงส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรง เกิดความสัมพันธ์ที่ดีต่อระหว่างเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ครูผู้ดูแลเด็กและผู้ปกครอง สามารถทำกิจกรรมร่วมอย่างสนุกสนาน จึงได้จัดกิจกรรมนี้ขึ้นมา วัตถุประสงค์ของการจัดกีฬาสี ๑. เพื่อส่งเสริมความมีระเบียบวินัย ปลูกฝังการเล่นกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ๒.เพื่อส่งเสริมความมีระเบียบวินัยความสามัคคี อดทน การปฏิบัติตามกติกาข้อตกลง ๓.เพื่อให้เด็กทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนได้อย่างสนุกสนาน โดยมีการเดินขบวนพาเหรด กีฬาที่แข่งขันก็มี ชักกะเย่อ เก้าอี้ดนตรี เกมแต่งตัว และ ระบายสีภาพ ประธานเปิดงานคือนายเวียง นัยสิทธิ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเชียงรากน้อย ก่อนการแข่งขันกีฬาได้มีการให้เด็กทั้งสามสีเต้นรีวิวประกอบเพลงสีละ ๑ เพลง ซึ่งที่ได้รับความสนใจได้แก่สีเขียวที่เต้นเพลงฮิต อย่างกัมนังสไตล์ เรียกเสียงหัวเราะจากผู้ปกครองและผู้มาร่วมงานอย่างมาก นอกจากนั้นยังได้ให้ผู้ปกครองของเด็กแต่ละคนออกมาเต้นเพลงกัมนังสไตล์กับบุตรหลานของตนอย่างสนุกสนาน ลืมอายไปเลยทีเดียว หลังจากแข่งเสร็จ นายกฯ ได้แจกของขวัญ ขนม แก่เด็กๆ ทุกคน และเชิญผู้ปกครองรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับบุตรหลานของตนเอง จากการจัดกิจกรรมนี้ผู้ปกครองได้ให้ความสนใจและร่วมมือเป็นอย่างดี ทุกคนมาร่วมกิจกรรมเต็มไปด้วยรอยยิ้ม มีความสุขที่เห็นความสามารถของเด็กๆ
ที่มา : http://special2.dusitcenter.org/cdcnews/content.php?nid=3664 | เลขที่ข่าวอ้างอิง : 3664