ประเมินพัฒนาการนักเรียน
สร้างโดย บ้านดงเจริญ อบต.กุดสระ อ.เมือง จ.อุดรธานี (จังหวัดอุดรธานี)
ผู้จัดทำ นางเสาวณีย์ ผุยม่วง
ประเภทตัวชี้วัด : ด้านการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาเด็กปฐมวัย
จากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านดงเจริญที่ผ่านมาใกล้จะสิ้นสุดปีการศึกษา ๒๕๕๕ แล้ว ทางครูผู้ดูแลเด็กจึงจัดให้มีการประเมินพัฒนาการของเด็กในแต่ละด้าน ซึ่งพัฒนาการของเด็กนั้นมีทั้งด้านร่างกาย จิตใจและอารมณ์ สังคมและสติปัญญา ถ้าเราจะประเมินพัฒนาการด้านร่างกายของเด็ก เราจะดูว่าการทรงตัวและการเคลื่อนไหวของเขาเป็นอย่างไร เช่น นั่งได้ เดินได้หรือยัง ซึ่งต้องใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ที่อยู่บริเวณคอ แขน ขา และลำตัวของเด็ก สังเกตการใช้มือในการหยิบจับสิ่งของต่างๆว่าลักษณะการหยิบจับเป็นอย่างไร การขีดเขียนเป็นอย่างไร ซึ่งต้องใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กของร่างกายเรา อันมีอยู่ที่ตาและมือ ดูว่ามือและตาของเราประสานการทำงานได้ดีเพียงไร ถ้าเราจะประเมินพัฒนาการด้านจิตใจและอารมณ์ เราก็ต้องสังเกตว่าตอนนี้อารมณ์ของเด็กที่แสดงออกเป็นอย่างไร เศร้า สนุก สุข หรือดีใจ และมีการควบคุมการแสดงออกของอารมณ์เป็นอย่างไร มีความรู้สึกที่ดีต่อตนเองว่ามีคุณค่า ภาคภูมิใจหรือไม่ พัฒนาการด้านสังคมนั้น ประเมินโดยสังเกตการสร้างสัมพันธภาพกับผู้อื่น เช่น การยิ้ม การทัก การไหว้ พูดคุยกับผู้อื่น เป็นต้น การช่วยเหลือตนเองในชีวิตประจำวันของเด็กว่าดื่มน้ำจากแก้ว ตักอาหารรับประทานเอง ถอดหรือใส่เสื้อผ้าได้หรือไม่ เป็นต้น พัฒนาการด้านสังคมยังรวมถึงการรู้คุณค่าของชีวิต และมีคุณธรรมด้วย ส่วนพัฒนาการด้านสติปัญญานั้นเราจะประเมินความสามารถในการเรียนรู้และการแก้ปัญหาของเด็กซึ่งการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กในการหยิบจับสิ่งของและขีดเขียนเป็นเส้นหรือรูปทรงต่างๆนั้น มีเรื่องของแก้ปัญหาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ตัวอย่างเช่น ภาษาของเด็กทั้งความเข้าใจภาษา และการใช้ภาษาพูดสื่อความหมายต่างๆนั้น ก็บ่งบอกถึงพัฒนาการด้านสติปัญญาได้ เมื่อเราประเมินพัฒนาการแล้ว เราจะเห็นว่าพัฒนาการทั้งด้านร่างกาย จิตใจและอารมณ์ สังคมและสติปัญญาของเด็กนั้นมีด้านใดที่ช้าบ้าง และอาจช่วยบอกเราได้ว่าเขาน่าจะมีปัญหาด้านใด หลังจากนั้นครูก็จะนำผลการประเมินบันทึกลงในสมุดประจำตัวเด็ก และแสดงความคิดเห็น ส่งให้ผู้ปกครองรับทราบพัฒนาการของลูก ๆ เพื่อที่จะส่งเสริมพัฒนาการ และแก้ไขให้ดีขึ้นในรายที่พัมนาการล่าช้ากว่าเด็กปกติ เป็นต้น
ที่มา : http://special2.dusitcenter.org/cdcnews/content.php?nid=2647 | เลขที่ข่าวอ้างอิง : 2647