ประสบการณ์ในช่วงชีวิตของการเป็นครูสอนเด็ก

สร้างโดย โรงเรียนวัดเกษตรธิการาม (จังหวัดปัตตานี)

ผู้จัดทำ นางสาวประเทือง แก้วเลียม

ประเภทตัวชี้วัด : ประสบการณ์ : จากเรื่องเล่า ใต้ร่มพระบารมี



            พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “คำว่า ครู นั้นเป็นคำที่สูงยิ่งเพราะถือว่าเป็นผู้ที่ได้รับการเคารพบูชาได้ ฉะนั้นได้ชื่อเรียกตัวว่าเป็นครู ก็จะต้องบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ บำเพ็ญตนเองให้เป็นที่นับถือเพราะว่าผุ้ใดเป็นครูแล้วไม่บำเพ็ญตนให้เป็นที่นับถือได้ ก็เท่ากับบกพร่อง” สิ่งที่ได้รับจากพระราชดำรัส ดิฉันนำมาปฏิบัติในชีวิตประจำวันคือ การที่เราได้รับการยกย่องจากเด็กว่าเราเป็นคุณครูแล้วเราจะต้องปฏิบัติตนเป็นเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็กๆ เพราะความเป็นครูอนุบาลนั้นมีภาระหน้าที่อันหนักในการสร้างคนให้เป็นคนที่สมบูรณ์แบบได้เราต้องมีความรัก ความอดทนในการอบรมสั่งสอนลูกศิษย์ให้มีความรู้ ความสามารถในการพัฒนาทั้ง 4 ด้าน และสิ่งสำคัญคือสอนให้เด็กรักกันไม่ว่าเราจะมีการนับถือศาสนาต่างกันมีประเพณีต่างกันแต่เราก็อยู่โรงเรียนเดียวกันห้องเดียว คุณครูคนเดียวกัน เมื่อเรามาอยู่รวมกันแล้วความสามัคคีจะทำให้เราทำงานกลุ่มลุล่วงไปได้ด้วยดี ถ้าหากเราทำงานคนเดียวเราก็จะเสร็จช้า แต่ถ้าเราทำงานกลุ่มเราก็จะเสร็จเร็ว นี่คือสิ่งที่ดิฉันสั่งสอนเด็กๆในห้องทุกเช้าก่อนเรียนหนังสือ เมื่อผู้ปกครองนำบุตรหลานมาส่งยังห้องเรียนกิฉันก็จะยืนคอยรับเด็กที่หน้าประตูห้องเรียนทุกวัน เพราะว่าดิฉันจะมาโรงเรียน 7 โมงเช้าทุกวันผู้ปกครองก็จะอุ่นใจมากขึ้น ผู้ปกครองบางท่านก็นำยามาฝากดิฉันให้ป้อนยาให้เด็กหลังรับประทานอาหารเสร็จ สิ่งที่ได้รับคือ ความไว้วางใจจากผู้ปกครองของเด็กว่าเราสามารถดูแลบุตรหลานของเขาได้ดีเหมือนกับบุตรหลานของดิฉันเอง ทั้งนี้ดิฉันก็จะต้องฝึกฝนตนเองในด้านการเรียนการสอนและปฏิบัติเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็กๆ ปัญหาที่เกิดขึ้นในการทำงาน ในช่วงสิ้นปีงบประมาณ เพื่อนๆที่ทำงานร่วมกันกับดิฉันก็พากันหยุดงาน แต่ดิฉันก็ไปทำงานอยู่ทุกวัน เพราะถ้าหากดิฉันหยุดงานแล้ว เด็กๆจะมาโรงเรียนน้อยเพราะเด็กๆคิดว่าไม่มีคุณครูสอนเพราะคุณครูไม่มาโรงเรียน ฉะนั้นดิฉันก็ต้องมาโรงเรียนทุกวัน เพราะดิฉันได้นำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นแบบอย่างในการทำงาน “เปรียบเสมือนพระองค์ท่านทรงงานเหน็ดเหนื่อยเพื่อพสกนิกร ของพระองค์ให้มีความอยู่ดีกินดีตามแนวเศรษฐกิจพอพียงที่พระองค์ทำเพื่อชาวไทยทุคนโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน” ถึงแม้ดิฉันจะเป็นครูพี่เลี้ยงแต่ดิฉันก็สามารถอบรมสั่งสอนพวกเขาให้รักใคร่สามัคคีกัน และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับพวกเขาได้ สิ่งที่ได้คือ ผู้อำนวยการโรงเรียนได้ให้ค่าตอบแทนดิฉันเพิ่ม เพราะการที่ดิฉันมาโรงเรียนทุกวัน ถึงแม้จะสิ้นงบประมาณก็ตาม ดิฉันมีความสุขที่มาโรงเรียนได้อยู่กับเด็กๆ อบรมสั่งสอนให้พวกเขาเป็นคนดีไม่แบ่งแยกศาสนา เพราะทุกศาสนาสอนให้เป็นคนดี และอยู่ร่วมกันได้มีน้ำใจให้กัน แบ่งปันมีความรักความสามัคคี เมื่อพวกเขาเติบโตขึ้นมาจะได้นำพาประเทศชาติก้าวหน้าต่อไป

ที่มา : http://special2.dusitcenter.org/cdcnews/content.php?nid=1048 | เลขที่ข่าวอ้างอิง : 1048